ประวัติและความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์
สงกรานต์ เป็นประเพณีสำคัญของไทยที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงวันที่ 13-15 เมษายน เพื่อเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งมีรากฐานมาจากวัฒนธรรมอินเดียโบราณและได้รับอิทธิพลจากศาสนาพุทธและพราหมณ์
ความหมายของคำว่า "สงกรานต์"
คำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสกฤตว่า "สํกรานฺติ" (Saṃkrānti) แปลว่า "การเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนผ่าน" หมายถึงการเปลี่ยนผ่านของดวงอาทิตย์จากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินสุริยคติของไทย
(https://cdn.pixabay.com/photo/2022/04/21/09/21/songkran-7147058_1280.jpg)
ประวัติของประเพณีสงกรานต์
ยุคแรกเริ่ม: มีต้นกำเนิดจากอินเดียในฐานะเทศกาลขึ้นปีใหม่ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และเผยแพร่มาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย
สมัยกรุงสุโขทัย: มีหลักฐานว่ามีการเล่นน้ำและทำบุญตักบาตรในช่วงปีใหม่
สมัยกรุงศรีอยุธยา: เริ่มมีการสรงน้ำพระและรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่
สมัยรัตนโกสินทร์: สงกรานต์ได้รับการรับรองให้เป็น "วันขึ้นปีใหม่ไทย" จนถึงปี พ.ศ. 2483 ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่สากล
กิจกรรมสำคัญในวันสงกรานต์
ทำบุญตักบาตร – เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ – แสดงความเคารพและขอพร
สรงน้ำพระ – เพื่อความเป็นสิริมงคล
ก่อพระเจดีย์ทราย – เป็นการสร้างบุญ
เล่นน้ำสงกรานต์ – เพื่อความสนุกสนานและคลายร้อน
การละเล่นพื้นบ้าน – เช่น การแข่งขันกีฬาพื้นเมืองและรำวงสงกรานต์
สงกรานต์ในปัจจุบัน
แม้ว่าประเพณีสงกรานต์จะยังคงรักษาความหมายทางศาสนาและวัฒนธรรมไว้ แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การเล่นน้ำอย่างสนุกสนานในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และพัทยา โดยเฉพาะถนนข้าวสาร ถนนสีลม และคูเมืองเชียงใหม่ที่มีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานจำนวนมาก
รัฐบาลไทยยังได้ผลักดันให้ ประเพณีสงกรานต์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของยูเนสโกอีกด้วย
สรุป
สงกรานต์เป็นประเพณีที่สะท้อนถึงความกตัญญู ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และการเริ่มต้นใหม่ที่ดีของคนไทย แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่แก่นแท้ของสงกรานต์ยังคงเป็นการเฉลิมฉลองด้วยความสุขและความปรองดองในสังคม
🔹 คุณเคยมีประสบการณ์สนุก ๆ กับสงกรานต์ที่ไหนบ้าง? 😊
(https://cdn.pixabay.com/photo/2020/03/09/16/59/pattaya-4916416_1280.jpg)
วันสงกรานต์คือวันแห่งความสุข